ในปัจจุบันหลายๆคนประสบปัญหานอนไม่หลับ เป็นเพราะการใช้ชีวิตที่เร่งรีบ และเต็มไปด้วยความเครียดของวิถีชีวิตในปัจจุบัน ทำให้เวลาการพักผ่อน ไม่เป็นไปได้ด้วยดีเท่าที่ควร บางคนเลยหันมาหาตัวช่วย เช่น ยานอนหลับ ซึ่งอาจส่งผลเสียหากรับประทานติดต่อกันเป็นเวลานาน โดยเราสามารถปรับสมดุลร่างกายได้ง่ายๆ ด้วยการปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหาร การออกกำลังกายและปรับสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม
การรับประทานอาหารควรเลือกทานสิ่งที่มีประโยชน์และเสริมวิตามิน อาหารที่มีแมกนีเซียมจะช่วยเพิ่มความผ่อนคลายให้สมองและลดอาการปวดตึงกล้ามเนื้อ เช่น ปลาเก๋า ปลากะพง ถั่วเหลือง ถั่วลิสง อัลมอลต์ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ยอดฟักทอง และกล้วยสุก เพราะแมกนีเซียมสามารถช่วยลดอาการซึมเศร้าและยังมีผลต่อกระบวนการควบคุมการนอนหลับ โดยเป็นตัวที่ช่วยในการสร้างสารเมลาโทนินอีกด้วย นอกจากนี้เราควรหลีกเลี่ยงการรับประทานเครื่องดื่มที่มีสารคาเฟอีนและแอลกอฮอล์ เพราะในสารคาเฟอีนจะเข้าไปรบกวนระบบประสาททำให้เรารู้สึกตื่นตัวตลอดเวลาและอาจส่งผลให้หัวใจทำงานหนักรู้สึกใจสั่นทำให้ยากต่อการนอนหลับ นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงต้องเลือกอาหารที่มีประโยชน์ให้แก่ร่างกาย อาหารส่งผลต่อการนอนหลับจริงๆ
การออกกำลังกายช่วยเพิ่มพลังทางสมองได้นานถึงสิบชั่วโมง การออกกำลังกายเป็นประจำสามารถเพิ่มความยาวของการนอนหลับ ทำให้ร่างกายสามารถหลับได้ลึก ร่างกายที่ผ่านการออกกำลังกายมาจะมีความอ่อนล้า แต่เป็นความอ่อนล้าที่ดีต่อสุขภาพ ตอนเช้าจะตื่นได้อย่างสดชื่นเพราะร่างกายได้รับการพักผ่อนมาอย่างเต็มที่แล้ว นอกจากนี้การออกกำลังกายในตอนเช้ายังช่วยลดความดันโลหิตได้ถึงร้อยละ10 ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของหัวใจและหลอดเลือด ป้องกันการเกิดหัวใจวาย ที่สำคัญทำให้สมองปลดปล่อยสารเอนโดรฟิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งความสุข ทำให้อารมณ์ดี สดชื่นได้ตลอดทั้งวันอีกด้วย ฉะนั้นเราควรหันมาออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอให้เป็นนิสัยเพื่อสุขภาพที่ดีในการนอน
อีกหนึ่งวิธีง่ายๆที่ทำให้สามารถนอนหลับง่ายขึ้นคือ การปรับสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม ลดสิ่งรบกวน จากโทรศัพท์มือถือ เครื่องมือสื่อสาร ที่อาจส่งผลให้คุณรู้สึกพักผ่อนได้ไม่เต็มที่ นอนไม่เต็มอิ่ม และเกิดเป็นอาการอ่อนเพลียสะสมได้ในที่สุด ทำให้ตารางเวลานอนของคุณที่เคยปฏิบัติมาเกิดรวน และปรับตัวได้ยากหากต้องการที่จะกลับมานอนเวลาเดิมอีกครั้ง ควรปรับอุณหภูมิห้องให้พอดี ไม่หนาวหรือร้อนจนเกินไป และควรให้มีอากาศถ่ายเทสะดวก คณะแพทยศาสตร์Keck แห่งมหาวิทยาลัยเซาเทิร์น แคลิฟอร์เนีย บอกว่า ตอนเราหลับร่างกายเราจะมีอุณหภูมิที่เย็นลง เวลาเราตื่นนอนร่างกายเราจะอุ่นขึ้น ซึ่งการที่เราหลับจะเกิดจากการปล่อยเมลาโทนินซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ผลิตจากสมองจะช่วยเรื่องการนอนหลับ แต่ถ้าเราอยู่ในห้องที่มีความร้อนก็จะส่งผลต่อการปล่อยเมลาโทนินก็จะทำให้เราหลับไม่เต็มที่อาจจะตื่นกลางดึก เพราะฉะนั้นการนอนในห้องที่มีความเย็นอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้เราหลับได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น สภาพแวดล้อมในห้องจึงสำคัญต่อการนอนหลับอย่างมาก
ทั้งนี้หากเราอดนอน หรือพักผ่อนไม่เพียงพอ จะส่งผลเสียกับร่างกายทำให้ระบบร่างกายทำงานติดขัด จะเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดความดันโลหิตสูง และปัญหาด้านระบบหลอดเลือดหัวใจ ระบบภูมิคุ้มกันทำงานโดยมีประสิทธิภาพลดลง หายจากโรคต่างๆ ได้ช้าลง มีผลต่อการเจริญเติบโต มีการซ่อมแซมเนื้อเยื่อส่วนที่สึกหรอได้ลดลง ฟื้นตัวจากโรคได้ช้า ร่างกายมีภาวะอ่อนเพลีย ส่งผลต่อระบบเผาผลาญ ร่างกายต้องการอาหารมากขึ้น มีอาการป่วย เช่น คลื่นใส้ ปวดศีรษะ ท้องผูกหรือท้องเสีย กล้ามเนื้อทำงานได้ไม่เต็มที่ กล้ามเนื้อทำงานได้ลดลง หรืออ่อนแรง อ่อนเพลีย มีผลทางด้านจิตใจและอารมณ์ เช่น โกรธง่าย มีอารมณ์แปรปรวน ไม่คงที่ ซึมเศร้า และมีอาการเฉื่อยชา ไม่อยากทำอะไรเลย เพราะฉะนั้นจึงต้องดูแลร่างกายให้ดี การพักผ่อนนอนหลับนั้นก็เป็นสิ่งสำคัญ ไม่แพ้เรื่องการบริโภคหรือการออกกำลังกายเลย
รู้อย่างนี้แล้วเรามาเริ่มปรับการใช้ชีวิต เพื่อการนอนหลับที่ดีกันดีกว่าค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก โรงพยาบาลสมิติเวช และ Healthaddict.com